ชื่อยา ฟ้าทะลายโจร
ส่วนประกอบ ผงจากส่วนเหนือดินของฟ้าทะลายโจร [Andrographis paniculata (Burm. f.) Wall. ex Nees] ที่มีสารสำคัญ total lactone
โดยคำนวณเป็น andrographolide ไม่น้อยกว่าร้อยละ 6 โดยน้ำหนัก (w/w)
ขนาด(รพ.สุรินทร์) 500 mg./capsule
ข้อบ่งใช้ 1.ไข้หวัด เจ็บคอ
2.ท้องเสียชนิดไม่ติดเชื้อ เช่น อุจจาระไม่มีมูก ไม่มีเลือดปน
วิธีใช้ รับประทานครั้งละ 3-6 แคปซูลวันละ 4 ครั้งก่อนอาหาร เช้า กลางวัน เย็นและก่อนนอน
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
ลดไข้ ต้านการอักเสบ ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคท้องร่วง ลดการบีบตัวหรือหดเกร็งของลำไส้ และกระเพาะอาหาร ป้องกันตับจากสารพิษ
ต้านออกซิเดชั่น กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ลดความดันเลือด ลดอัตราการเต้นหัวใจ ต้านการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด
งานวิจัย
1.จากการทดลองรักษาอาการท้องเสียในผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลันและติดเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคบิด จำนวน 200 ราย โดยเทียบกับเตตร้าซัยคลิน พบว่าช่วยลดระยะเวลาที่ต้องนอนพักในโรงพยาบาล ลดปริมาณ น้ำเกลือที่ให้ทดแทน และลดปริมาณการถ่ายอุจจาระเหลวทั้งจำนวนครั้งและระยะเวลาที่ถ่ายได้
2.ฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ต้านเชื้อ E.coli ,S. Aureus,Salmonella,Shigella ยกเว้น Cholera
3.Andrographolide ออกฤทธิ์ยับยั้ง E. coli LT และ LT/ST enterotoxins คล้ายกับ loperamide และยับยั้ง E. coli ST enterotoxins ที่เป็นสาเหตุการเกิดโรคท้องร่วงในทารกแรกเกิด ได้ดีกว่า loperamide
4.การศึกษาการใช้ฟ้าทะลายโจรเพื่อรักษาอาการไข้และเจ็บคอเปรียบเทียบกับยาลดไข้พาราเซตามอล พบว่ากลุ่มที่ได้รับฟ้าทะลายโจรขนาด 6 g.ต่อวัน จะมีอาการไข้และการเจ็บคอลดลงในวันที่ 3 ซึ่งดีกว่ากลุ่มที่ได้รับฟ้าทะลายโจร 3 g./วัน หรือในกลุ่มที่ได้รับพาราเซตามอล แต่การติดตามผลเมื่อหลัง 7 วันพบว่าผลการรักษาไม่ต่างกัน และฟ้าทะลายโจรไม่ให้ผลต้านเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเจ็บคอ
5.การศึกษาเปรียบเทียบการใช้ฟ้าทะลายโจรเพื่อป้องกันหวัด ซึ่งทำในช่วงฤดูหนาว โดยให้นักเรียนรับประทานยาเม็ดฟ้าทะลายโจรแห้ง ขนาด200 mg./วัน ติดตามผลไปในเดือนแรกของการทดลองไม่พบความแตกต่างระหว่างกลุ่มที่รับประทานยาและกลุ่มควบคุม แต่หลังจาก 3 เดือนของการทดลองพบว่าอุบัติการณ์การเป็นหวัดในกลุ่มที่ได้ฟ้าทะลายโจรลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม โดยอัตราการเป็นหวัดในกลุ่มที่ได้รับฟ้าทะลายโจรเท่ากับร้อยละ 20 ในขณะที่กลุ่มควบคุมมีอัตราการเป็นหวัดเท่ากับร้อยละ 62
การศึกษาความเป็นพิษ 1.ไม่พบพิษเฉียบพลันและกึ่งเรื้อรัง